วันที่ 30 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินภาค 6 จ.อุดรธานี นายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พาครูวิม อายุ 36 ปี ครูชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.หนองคาย นำหลักฐานเอกสารการจ่ายงบประมาณอาหารกลางวันของโรงเรียน จากเทศบาลและเอกสารการซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารของโรงเรียน ที่มีพิรุธส่อเรื่องการทุจริต เพื่อให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบโรงเรียนแห่งนี้ โดยมี นายชาญเดช วีระกุล อายุ 59 ปี ผู้ตรวจเงินแผ่นดินรับมอบหนังสือ
โดยทาง สตง. ก็จะรีบดำเนินการตรวจสอบว่า ผอ.โรงเรียนนี้ มีพฤติกรรมการกระทำความผิดตามที่ผู้ร้องได้ส่งหลักฐานมาให้หรือไม่ และมีความผิดอยู่ในระดับไหน โดยจะส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพร้อมทั้งจะตั้งคณะทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบถ้าพบว่าผิดจริงก็จะดำเนินการส่งเรื่องให้ ปปช. เอาผิดให้ถึงที่สุด
นายภาณุมาศ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้ปกครองเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล 3 ที่ครูวิมดูแลอยู่มาร้องตนว่า ลูกสาวทานอาหารกลางวันของโรงเรียนที่ไม่มีคุณภาพ พร้อมทั้งให้ดูรูปภาพและคลิปอาหารกลางวัน ที่ครูเคยส่งรายงานให้ผู้ปกครองดูทางไลน์ มีเมนูผัดมาม่า ต้มยำไก่ กลัวลูกสาวจะไม่แข็งแรง จากนั้นได้ติดต่อไปยังครูวิม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงตามที่ผู้ปกครองแจ้งมา ว่ามีเมนูอาหารที่ไม่เป็นไปตามนโยบาย thai school lunch ตามที่ สพฐ. กำหนดจริงหรือไม่ โด ยครูวิม ยอมรับว่า เป็นเรื่องจริงเพราะงบในแต่ละครั้งที่ครูวิมได้เงินไปซื้อวัตถุดิบมาให้แม่ครัวทำอาหารแค่วันละ 1,400 บาทเท่านั้น บางวันครูต้องควักเงินเพิ่ม 100-200 บาทเพื่อซื้อของมาให้ครบแต่เบิกคืนไม่ได้
ถือว่าจำนวนเงินดังกล่าวไม่สอดคล้องหรือตรงตามความเป็นจริงกับเงินที่โครงการฯ อนุมัติเงินมาให้กับเด็กนักเรียน 27 บาทต่อคน โดยโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 90 คน รวมเป็นเงิน 2,484 บาท แต่กลับโอนเงินมาให้ตนซึ่งเป็นครูที่ดูแลอาหารกลางวันเด็กเพียง 1,400 บาท ขาดไปถึง 1,084 บาท เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปี 64 จนถึงปีนี้ก็ 2 ปีกว่า
หลังจากนั้น นายภาณุมาศ ได้ติดต่อไปยังเทศบาลเมืองหนองคาย เพื่อขอเอกสารหลักฐานการเบิกจ่ายค่าอาหารกลางวันของโรงเรียน ปรากฏว่า งบที่ให้ใช้จริงต่อวันคือวันละ 2,430 ต่อนักเรียน 90 คน ตกคนละ 27 บาท ตามที่ ครม.มีมติอนุมัติ แต่ผู้บริหารโรงเรียนกลับให้เงินครูไปซื้ของแค่วันละ 1,400 บาท คำถามคือแล้วเงินส่วนต่างหายไปไหน
ครูวิม เปิดเผยว่า ที่มาวันนี้ต้องการนำหลักฐานเข้ามาร้อง สตง.ภาค 6 ให้ตรวจสอบ เพราะตนสงสารนักเรียนที่ต้องทนกินอาหารแบบนี้ แต่ละวันมีผัดมาม่า ต้มยำไก่ วนๆ อยู่อย่างนี้แทบทุกวัน ตนเคยคุยกับ ผอ.เรื่องนี้แล้วแต่ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลง จนผู้ปกครองต้องมาถามว่า ลูกทำไมได้กินอาหารแบบนี้ ตนก็ลำบากใจที่จะตอบ
นอกจากนี้ ครูวิม ยังเปิดเผยอีกว่า รูปเมนูอาหารที่ติดไว้โชว์ที่ห้องอาหารก็ไม่ตรงกับเมนูที่ทำจริง และยังมีการส่งรายการจำนวนวัตถุดิบปลอมกลับไปให้เทศบาลด้วย เช่น ตนซื้อเนื้อหมูมา 4 กิโล แต่ทางโรงเรียนทำรายงานส่งเทศบาลว่าซื้อมา 8 กิโลกรัม แบบนี้ก็มีด้วย บางรายงานก็ส่งว่าทำเมนูบะหมี่เกี๊ยวแต่เมนูที่ทำจริงแค่แกงเผ็ดไก่
ตนรู้สึกอึดอัดใจมาก จนอยากขอย้ายไปอยู่ที่อื่น เพราะครูคนอื่นในโรงเรียนมองตนว่าไม่เข้าพวกเป็นแกะดำไปซะงั้น วันนี้ตนจึงขอเปิดหน้าแลกกับความเป็นธรรมทวงสิทธิคืนให้กับนักเรียนของต นถึงแม้ต่อไปอาจจะโดนกลั่นแกล้งหรือโดนอิทธิพลใดๆ ก็ไม่กลัว อย่างดีก็แค่ออกจากครูเท่านั้น
